วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ครู ป.กศ.แอ้...แต่ตกงาน


๑๑๑ช่วงเป็นนักศึกษา...เป็นยุคเฟื่องฟูของกิจกรรมนักศึกษา...ตามสโลแกน กูเป็นนิสิต นักศึกษา มีปัญญามากมายมหาศาล...ทั้งปัญญาชน...คนอันธพาล...ร่วมประสานเป็นพลัง...สร้างศรัทธาของมหาชน...เราเป็นกรรมการศูนย์กลางนักศึกษาเป็นตัวแทนสายชั้นปี...ผู้นำยุคเราเข้าป่าเป็นทั้งเพื่อนร่วมกิจกรรม...เพื่อนบ้านเดียวกัน...ปัจจุบันเขาเป็นผู้แทนราษฎร...เป็นนักเรียนทุนกันดารที่สอบแข่งกับเรามา...อดีตเป็นประธานนักเรียนคนแรก...ของโรงเรียนสหราษฎร์...เป็นนักปลุกระดม...เป็นดาวไฮปาร์ค...สุดท้ายหนีเข้าป่า...เป็นคอมมิวนิสต์...ตามข้อกล่าวหาของรัฐบาลยุคหอยครองเมือง...เพื่อนหนีเข้าป่า(เขาชื่อครูแก้ว)...เราพาเพื่อนที่หนีมาจากธรรมศาสตร์กลับไปซ่อนตัวอยู่ที่บ้าน...เหตุการณ์สงบเราเรียนต่อจนจบ...ได้วุฒิครูติดตัวทุนคึกฤทธิ์ไม่มีสักบาทเดียว...จบมาแล้วไม่มีงานรองรับ...งานกับเงินมันไปกับคึกฤทธิ์...ไม่มีการเปิดสอบบรรจุครูอีกเลยตั้งแต่จบมา...เพื่อนที่หนีเข้าป่าได้ข่าวเพียงว่ามาเยี่ยมแม่ที่บ้านแค...โดนปิดล้อมแต่สุดท้ายปลอดภัยและหนีไปได้...และไม่เคยได้ติดต่อกันอีกเลย...เราขอพ่อหนีจากบ้านไปเผชิญโชคที่ กทม...เรียนต่อรามคำแหงคณะรัฐศาสตร์ เพราะลูกลุงเราเรียนที่นี่อยู่แล้ว...เรียนไปทำงานไปทำกิจกรรมไป เกเรเที่ยวเตร่ตามประสาเด็กวัยรุ่น...แถมเป็นลูกชายคนโต...เป็นลูกครูพ่อมีเงินเดือน...เรียนบ้างไม่เรียนบ้าง...เพราะเป็นยุคของพวกเรา...เรียนอยู่สามปี ได้ 70 กว่าหน่วย...น้องๆเริ่มโตไล่ตามหลังมา...
................วันที่ 2 ตุลาคม 2523 เป็นวันที่ฝนตกหนักทั่วกรุงเทพ...มีการประกาศของมหาวิทยาลัยรามคำแหง...งดการเรียนและงดสอบไม่มีกำหนด...เราไปเรียนตามปกติ...เดินเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้...น้ำท่วมเกือบถึงป้ายมหาวิทยาลัย...เรากับเพื่อนๆ...ฉลองต่อที่ไม่ได้สอบ...ตั้งใจจะกลับไปบ้านที่ศรีเวินชัยเพราะไม่ได้กลับนานแล้ว...พอมาถึงหอพักประมาณ 2 ทุ่มเศษ...มีคนเอาโทรเลขมาให้ 3 ฉบับ...ฉบับแรก พ่อป่วยหนักกลับบ้านด่วน...2ฉบับหลัง มีข้อความว่า...พ่อเสียแล้ว กลับบ้านด่วน...โลกทั้งโลกหมุนติ้ว...ยืมเงินเพื่อนเป็นค่ารถ...เรียกแท็กซี่ไปหมอชิด...

วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2551

นักศึกษาครูภาคค่ำ...


...ออกจากปิยะฯไม่ได้มีความเข้าใจหรอกว่าจะเรียนอะไร...มศ.3 ไม่ครูก็ตำรวจ...แต่ตำรวจไม่ได้สอบตอนจบใหม่...นึกอยากสอบตอนไหนก็สอบ...ไอ้อ้วน(ลูกพ่อเหรียญ)มันไปสอบเกษตรกาฬสินธิ์...มันบอกว่าสอบง่ายๆขุดดินคิวคูณคิวก็ได้เรียน...แต่เพื่อนหลายคนบอกว่า...อยาก..?..(ได้หญิง)ให้เรียนครู...อยากบู้ให้เรียนเกษตร...อยาก เสต็จให้เรียนการช่าง...และมันเยาะเย้ยหลังพวกมันได้เข้าเรียนแล้วว่า "ครูกลับกบ้านพายกระเป๋ากับเกิบ เกษตรกลับบ้านพายแบ้งค์ขี่รถแลนด์"เราไปสอบทุนครูกันดาร...ของวิทยาลัยครูสกล...ไอ้จ่อยลูกลุงเราก็สอบด้วยกัน...ตกทั้งคู่...แพ้นักเรียนโรงเรียนอำเภอ...เราไปสอบภาคค่ำ...ได้เรียนภาคค่ำวิทยาลัยครูสกลนครรุ่นสุดท้าย...เรียนเทอมแรก...เป็นหัวหน้าชั้น...ร่วมเป็นกรรมการนิสิตนักศึกษา...สายชั้นปีที่ 1ทำกิจกรรมร่วมกับทุกชมรมออกค่าย...จัดเที่ยว...อาสาพัฒนาเรื่อยไป...ใครชวนไปหมด...อายุ 18 เป็นนักกิจกรรมเรียนไม่ทันเพื่อน...เงินไม่พอใช้...ไม่ได้จ่ายค่าเทอม...สุดท้ายอาจารย์ให้ดรอป...เรียนได้เทอมเดียว...กลับบ้านไปหาปลา...หลังจากพ่อ..แม่...เสียน้ำตาเพราะไม่สนใจเรียน...อยู่บ้านก็พาเพื่อนทำกิจกรรม...ไปแข่งฟุตบอลเชื่อมสัมพันธ์กับบ้านอื่น...พาเพื่อนงันต้น...ทอดต้นทุกวันพระ...นอนเลียแผลทบทวนชีวิตที่ผ่าน...เข้าใจว่าทางวิทยาลัยจะเรียกไปเรียนต่อ...ปรากฏว่าโดนรีไทร์(ไล่ออก)ในเทอมต่อมา...เขาบอกว่าหมดสมาชิกภาพ...
....ปีนั้น...หม่อมคึกฤทธิ์ ปราโมช...เป็นนายกรัฐมนตรี...เจ้าของนโยบาย ขุดคลองให้เป็นถนน...ทำถนนให้เป็นคลอง...เจ้าของประชานิยมยุคแรก...จนต่อมาทุกพรรคการเมืองต้องลอกนโยบายของแกมาใช้ทุกพรรค...คึกฤทธิ์...แจกทุกอย่าง...ทำถนนขุดคลองใช้แรงคนแทนเครื่องจักร...ช่วงไม่ได้เรียนก็ไปรับจ้างกับเพื่อนๆ...ขุดคลองทำทางเพื่อเอาสตางค์คึกฤทธิ์...นายกคึกฤทธิ์...เปิดโอกาสให้คนรากหญ้า...มีทุนคึกฤทธิ์เพื่อผลิตครูที่ขาดแคลน...โดยให้สภาตำบลอันมีกำนันเป็นประธานการสอบ...ครูใหญ่ภายในตำบลเป็นกรรมการ...ออกข้อสอบเองโดยสอบสัมภาษณ์...เราสอบได้ทุนคึกฤทธิ์...ไปเรียนครูต่อภาคปกติ 2 ปี จบ...เพื่อนๆเรียกเราว่าครูไก่...คำว่าครู...จะเป็นคำนำหน้าคนที่เรียนครู...จะได้เป็นครูหรือไม่อยู่ที่เทวดา(แถน)เป็นผู้กำหนดชะตา...

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2551

นักเรียนในเมืองผู้นำยุคแรกของหมู่บ้าน

เพื่อน ป.4ได้เรียนหนังสือต่อ 4 คน ผู้ชาย 3 หญิง 1...ผู้หญิงเรียนอยู่อำเภอ เราผู้ชายเรียนอยู่จังหวัด...เรากับไอ้อ้วน(ลูกพ่อเหรียญ)อยู่ปิยะไอ้จ่อย(ลูกลุงเรา)อยู่ ร.ร.ส่งเสริม(โรงเรียนราษฎร์) 3 ปี มศ.1-มศ.3ได้เรียนรู้...ได้ความแตกต่าง...ได้เพื่อนที่หลากหลาย...ทั้งเจ็ก...ลาว...ญวน...ขี้ยา...นักเรียน...นักเลง...นักมวย...เด็กเกเด็กเรียน...ลูกข้าราชการชั้นผู้ใหญ่...ลูกกรรมกรสามล้อ...ลูกเมียเช่าฝรั่ง...ฯลฯ...คบได้หมด...อยู่ มศ.2 เราดูดยาซองเป็นเราอยู่กับน้า...(น้องแม่)น้าเราทำงานแค้มป์ทั้งผัวทั้งเมีย...น้าชายทำงานเป็นผสมเหล้า(บาร์เทนเดอร์)น้าหญิงทำงานเสริฟตอนกลางคืน...กลับมาบ้านน้าแกจะวางเงินเหรียญ 5 เหรียญ 2 (เซน)ไว้บนตู้เย็น...แกบอกว่าก่อนไปโรงเรียน...หยิบเอาเลย...เรามีเงินฝรั่งใช้ไม่ขาดมือ...บางวันหยิบเอาซองบุหรี่มาร์โบโล...ซาเล็ม...ของแกไปด้วย...เราไม่ได้สูบนะเอาไปฝากเพื่อน...แต่หลายครั้งเข้า...เราสูบเอง...สูบกันในห้องน้ำ...รู้สึกมันท้าทาย...รู้สึกว่ามันโก้...ความเป็นหนุ่ม...ถูกยอมรับจากเพื่อน...เท่ห์อย่าบอกใคร...จากบุหรี่...เราเรียนยัดไส้กัญชาขายให้ฝรั่ง...มวนละ 10 บาท ...เรามีเงินใช้ไม่ขาดมือ...เราดูดกัญชา...กินเบียร์ ดึ่มเหล้ากับเมียเช่าฝรั่ง...เรารู้จักเมียจีไอ..เขาสอนภาษาอังกฤษเรา...เขาพูดกับฝรั่งเวลาจะหาเงินว่า...เฮ้ บักจอน...ยูสลีบออนไอ(เอามือประกบกัน)แงบ แง๊บ แง๊บ ฟายเทนบาท โนทอน...สำเนียงลาวปนฝร้ง...บักจอนพยักหน้าหงึกๆด้วยความเข้าใจ...ส่วนเรางงเพราะครูภาษาอังกฤษไม่ได้สอนอย่างนี้...เราจบมศ.3ด้วยความทรหดดีที่ไม่ได้เรียนเป็น%...แต่เรียนเป็นเกรด...และไม่ได้เรียนร่วมกับเพื่อนเก่า มศ 1-3เปลี่ยนห้องเปลี่ยนเพื่อนตลอด...

วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2551

นักเรียนประถมปลาย


พ่อให้เราอยู่กับป้าลุง...ในโรงเรียนประจำอำเภอคือโรงเรียนอุเทนวิทยาคาร...ป.5.6.7.เป็นเรื่องยุ่งยากมากมายของเด็กบ้านนอก...ที่ไม่เคยสวมรองเท้าไปโรงเรียน...พ่อปรารถนาดีต่อเราซื้อรองเท้า...กางเกง...เสื้อ...ที่ใหญ่เกินขนาดให้เราพ่อบอกว่าเผื่อใหญ่...แต่เพื่อน ๆมันบอกเราว่าเหมือนการ์ตูน...เราไม่เข้าใจคำว่าการ์ตูนคืออะไรเราไม่รู้จักจริงๆเพราะที่บ้านเราไม่มีไฟฟ้าตั้งแต่เกิดมา...การ์ตูนมันมากับโทรทัศน์...การ์ตูนเรายังไม่รู้จัก...ไหนเลยจะรู้จักโทรทัศน์...ครูสอนภาษาอังกฤษ...เราไม่รู้เรื่อง...แต่เพื่อนมันเขียนเป็นมันว่าพี่มันสอน...มันเรียนอยู่เด็กเล็ก...อะไรคือเด็กเล็ก...เรียนไม่ทันเพื่อน...เราเป็นลาวเพื่อนมันเป็นญ้อ...สำเนียงเอกโทมันชัดเจน...จากเคยสอบได้เลขตัวเดียวเราเกือบสอบตก...ป.5 ขึ้นป.6เราสอบได้ 50กว่า% ป.6 ขึ้นป.7 ได้70 กว่า% จบป.7 ได้ 80 กว่า เลขตัวเดียวในลำดับที่ต้นๆของห้อง...แสดงว่าการเรียนง่ายขึ้นสำหรับเรา...เราจบประถมต้นโรงเรียนประจำหมู่บ้าน...ป.ปลายโรงเรียนประจำอำเภอ...จบ ป.7 ชักสนุกกับการเรียน...เราไปสอบเรียนต่อโรงเรียนประจำจังหวัดนครพนมคือโรงเรียนปิยะมหาราชาลัย...เราสอบได้...ขณะที่นมเรากำลังแตกพาน...มีฝรั่งมากมายเดินเป็นมดงาม...ผู้หญิงผมแดงเดินสูบบุหรี่...ขี่คอนิโกร...พูดภาษาอังกฤษปนไทยจนฟังไม่ได้ศัพท์...แต่เห็นฝรั่งพยักหน้าหงึกๆด้วยความเข้าใจ...และสนุกสนาน..

วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2551

จบ ป.4 หนีจากบ้าน



ผ่านชีวิตเด็ก...ที่ค่อนข้างแข็งแกร่งตามสภาพดินฟ้าอากาศ...บ้านเรายังไม่มีถนนไปอำเภออีกเช่นเคย...ต้องนั่งเรือหางยาวเข้าอำเภอวันละเที่ยว...ไปเช้ากลับเย็น...พ่อไปรับเงินเดือน...ต้องไปทั้งวัน...ตอนเย็นเรากับน้องและเพื่อนๆจะลงไปเล่นน้ำ...รอพ่อกลับมา...พ่อจะมีส้มเขียวหวานเหี่ยวๆมาฝากพวกเรา...มีปลาทูเน่าที่แม่ชอบมาให้แม่ตำกะปิ...บางทีโชคดีพ่อจะมีลูกฟุตบอลที่อำเภอแจกให้โรงเรียนมาด้วย...พ่อสอนคนละโรงเรียน...เราและน้องๆ...มีสิทธิ์แค่อุ้มลูกบอลไปอวดเพื่อนๆ...
....จบป.4ก่อนหนีจากบ้านการดำรงชีวิต...เพื่อเอาตัวรอด...ต่อสู้กับธรรมชาติ...สิ่งแวดล้อม...เราสอบผ่านเกิอบร้อยเปอร์เซนต์ ส่วนหลักสูตรโรงเรียน...ถือว่าจบชั้นประถมสมบูรณ์...หลักสูตรอาชีวะเราก็จบ...ทั้งทำเบ็ด...ต่อมอง...สานแห...พายเรือทำมาหากิน...ด้านเกษตรก็ไม่ได้คุย...เราทำเป็นหมดทั้งนาปี...นาข้าวลอย...ปลูกข้าวโพด...ปลูกผัก...ส่วนผลไม้ไม่ต้องปลูก...เวลากินแล้วกลืนเมล็ดมันเวลา...ปลดทุกข์ตอนเช้า...ปล่อยไว้อย่างนั้นถึงหน้าฝนมันเกิดเอง...เพื่อนเราบางคนที่จบป.4...สองปีมันเอาผัวและมีลูก...เราถูกพ่อบังคับให้ไปอยู่กับป้าที่ท่าอุเทน...พ่อบอกต้องไปเรียนหนังสือ...เราไม่อยากเรียนเพราะไส่เบ็ด...หาปลาก็พอได้แก้...วันหนึ่งได้สักสามกิโลก็สิบบาทแล้ว...พ่อบอกมันไม่ใช่วิถีที่ยั่งยืน...เรียนจบแล้วค่อยกลับมาหากินก็ได้...เราเป็นเด็กหัวอ่อน...ว่านอนสอนง่าย...พ่อพาเราเข้าอำเภอ...ไปขอหนังสือเก่าจากญาติพ่อ...เราตื่นเต้นที่ได้เห็นอำเภอ...ตั้งแต่เกิดเรามาไกลสุดแค่บ้านท่าบ่อ...เพื่อมารับเสด็จพระเจ้าแผ่นดินและพระราชินี...เราจำได้เราใส่ชุดลูกเสือ...แต่ไม่มีรองเท้า...ปี2512...รับเสด็จคนบ้านสามผงเรือล่มจมน้ำตายด้วย...เรามารับเสด็จเห็นแต่เฮลิคอปเตอร์แค่นี้ก็ตื่นเต้นแล้ว...

วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2551

เรื่องที่อยากให้คนอื่นรู้...เพื่อความหมั่นไส้...




@@@ก่อนเกิด ถึงเกิด... แม่เคยเล่าให้ฟังตอนที่อายุได้ 3 ขวบนั่งเรือกะแซงจากบ้านไปงานพระธาตุพนม...บ้านเราไม่มีถนน...แต่บ้านเราติดริมน้ำสงคราม...และก่อนเราเกิดเพียงยี่สิบกว่าปี...บ้านเราเป็นที่ตั้งกิ่งอำเภออากาศอำนวยนั่นหมายความว่า...เราเป็นคนบ้านนอกที่เกิดในตัวเมือง...ถึงว่า/...แม่จึงคุยนักคุยหนาว่าเราตัวขาว...เหมือนคนในเมืองไปไหนมีแต่คนอยากอุ้มขึ้นลงเรือ...แม้กระทั่งพระที่นั่งเรือไปด้วย...ยังเอาฝ้าย...เอาเหรียญ...และของจากย่ามยื่นใส่มือให้... แม่บอกเราว่า...สงสัยเป็นคนมีบุญมาเกิด ...โตขึ้นจะได้เป็นเจ้าเป็นนาย... และก็ได้เป็นจริงๆเมื่อตอนอายุครบวันถ่ายบัตรประชาชน... เปลี่ยนสภาพจากเด็กชายเป็นนาย...ตอนอายุ 18 พอดี...แสดงว่านายเราได้เป็นแล้ว...เหลือแต่เจ้า...นับจากวันที่จอมพลสฤษดิ์ปฏิวัติมา 18 ปี...เราก็ถ่ายบัตรประชาชน ยายเราบอกว่าเราเป็นญาติ...จอมพลสฤษดิ์ด้วย...เพราะยายเราเป็นคนเมืองมุกดาหาร...เป็นลูกสาวขุนบาล...ผู้คุมคุกเมืองร้อยเอ็ด...(ถึงเรายังไม่ได้เป็นเจ้า...เราก็มีเชื้อเป็นขุน...) ยายเราแต่งงานกับตาด่อง พูลศิลป์ ศึกษาธิการอำเภอเมืองมุกดาหาร...เงินเดือน 8 บาท ....ลูกหลายคนหากินลำบาก... หอบลูกหลานมาอยู่ที่บ้านศรีเวินชัย...หรือกิ่งอำเภออากาศอำนวย...มีอาของยายเราเป็นพ่อเมืองชื่อขุนพนมอำนวยสุข(คำไพ มณีปกรณ์)ต่อมาย้ายกิ่งไปที่บ้านท่าบ่อ...และบ้านปากอูน ยายกับตาเราไม่ได้ย้ายตาม...จับปลาขายเลี้ยงลูกหลานที่บ้านศรีเวินชัยต่อไป...จนสิ้นอายุไขของคนทั้งสอง...

@@@@@จำเหตุการณ์ได้จนเป็นหนุ่ม... เรารู้จักตัวอักษรตั้งแต่เราพูดเป็น เพราะเราเป็นลูกครู...พ่อเราเป็นญ้อ...เกิดที่บ้านท่าอุเทน...เป็นคนในเมืองเช่นเดียวกับเรา...เพราะบ้านพ่อเมื่ออดีต...ชื่อว่าเมืองอุเทน...พ่อเรียนสูงกว่าทุกคนของตระกูล...และเรียนไกลด้วย...พ่อเป็นลูกกำพร้าแม่ตั้งแต่เกิด...อาศัยกินนมคนข้างบ้าน(แม่บุญธรรม)เกิดก่อนพ่อคือ...พี่สาวและพี่ชายอย่างละคน...เป็นคนเลี้ยงและดูแลพ่อมาจนจบประถม 4 และพ่อก็กำพร้าพ่ออีกคน...(หมายความว่า...ปู่เราตายไปอีกคนนั่นแหละ)พ่อจบ ป.4 ไปเลี้ยงควาย ต่อนกเขา จับปลาอยากเรียนหนังสือต่อ...จนปัญญา...แต่...โชคพ่อยังดี...มีพี่เขยเป็นครู...มีโรงเรียนราษฎร์...เกิดขึ้นในเมืองอุเทน...ขาดคนเข้าเรียน...พ่อจบ ป.4 มาแล้ว 3 ปี ขอพี่เขยเรียนต่อ...พ่อจบโรงเรียนราษฎร์แสงอุเทน...แล้วได้ไปเรียนต่อ...โรงเรียนเกษตรอยุธยา...หาเงินเรียนเอง...พ่อเป็นนักมวย...เป็นมวยนักเรียน...เป็นแชมป์จังหวัดเรียนจบมาได้วุฒิอาชีวะปลาย...เขา...(ทางการ)...ให้พ่อไปเป็นครู...อยู่บ้านนอก...อันเป็นบ้านใหม่ที่ให้ชีวิตใหม่กับพ่อ...พ่อลูกกำพร้าทั้งพ่อและแม่แต่...เป็นข้าราชการครู...มีเงินเดือน...ได้ใช้จ่ายไม่ขัดสน...โรงเรียนบ้านขามเปี้ย ต.บ้านข่า อ.ศรีสงคราม...อยู่คนละฝั่งน้ำสงครามกับบ้านเกิดผม...พ่อสอนหนังสือ...ให้ความรู้มวลมนุษยชาติอยู่ 3 ปี เราจึงเกิดมาดูโลก...พ่อมีเพื่อนเป็นครูสอนโรงเรียนเดียวกัน...เสาร์อาทิตย์พ่อมาเที่ยวบ้านเพื่อนที่ศรีเวินชัย...พ่อได้พบกับลูกสาวอดีตศึกษาธิการอำเภอ...น้องสาวครูใหญ่โรงเรียนบ้านศรีเวินชัย...ทั้งคู่แต่งงานกัน...ทำอะไรกันต่อเราไม่เห็น...แต่เรารู้ว่าหลังจากเราเกิด...ก็มีคนเป็นหญิง...เป็นชาย...เป็นหญิง...และผู้ชายอีกสองคนตามหลังเรามา...แม่บอกเราว่า...เจ้ามีน้อง 5 คนนะ...

@@@@@เราว่ายน้ำเป็นตอน 4 ขวบ วันไหนไม่ได้ไปโรงเรียนกับพ่อ...เราจะรอเพื่อน...พี่...น้อง...ลงเล่นน้ำสงครามตั้งแต่ กินข้าวเที่ยงจนถึง บ่าย 2โมงทุกวัน บางวันเป็นตาแดง...บางวันเราเห็นลุง...แกเป็นครูใหญ่มาไล่ต้อนเด็กขึ้นจากน้ำเพื่อ...ไปโรงเรียน...บางวันก็เป็นพี่สะใภ้แม่...(ป้าผม)...แกเป็นครู...เป็นเมียครูใหญ่เป็นครูประจำชั้น...เป็นนางพยาบาล...เป็นนักเล่านิทานให้เด็กฟัง...วันไหน...ครูใหญ่ไม่อยู่แกก็เป็นครูใหญ่แทน...วันไหนแกเข้าอำเภอทั้งสองคน...สวรรค์น้อยๆ...สำหรับพวกเราทุกคน...เพราะ...ไม่ต้องไปโรงเรียน...ทั้งโรงเรียนมีครูผัวกับเมีย

@@@@@อายุตามเกณฑ์เข้าป.1ก็เข้าเรียน แต่สิ้นปี...ลุงแกไม่ให้ขึ้นชั้นแกบอกว่าไม่ได้เอาชื่อเข้าทะเบียนโรงเรียน...ต้องเรียนซ้ำชั้นอีกหนึ่งปี...แต่ที่ไหนได้...แกจับเราเรียนเป็นเพื่อนกับลูกแก...เพราะแกมีลูกตั้ง 9 คน มีเรียนอยู่ทุกชั้นคนโต...คนรอง...เข้าโรงเรียน ม.ในตัวอำเภอ...แกกลัวไม่มีเงินส่งเรียนเลยดองเราไว้...เราเรียนเก่งนะ...สอบได้เลขตัวเดียวตลอดตั้งแต่ ป.1ถึง ป.4...ทั้งชั้นเรียนมีเพื่อนทั้งหมด 13 คน ไม่มีการสอบแก้ตัวมีแต่สอบได้กับตก...เราเป็นคนมีความสามารถนะ...4 ขวบ ว่ายน้ำเป็น...5 ขวบ อ่านนายใหม่รักหมู่เป็นเด็กดีได้...ก็เพราะเราเป็นลูกครูนี่นา...เข้าเรียน ป.1ลุงเราจับเราเป็นัวหน้าชั้น...ถือไม้เรียวแทนลุง...และเป็นตลอดไม่ใครแย่งได้เลย...ขึ้น ป.3 คุมสอบ ป.1 แทนลุง... อยู่ ป. 4 เป็นครู วันไหนลุงไปอำเภอ เหลือป้าคนเดียว... ป.1,2...วิชาเลข คัด เลิก เราเป็นคนสอน ให้การบ้านน้อง ๆ...อีกต่างหาก...เราไม่ได้เป็นประธานนักเรียน...เพราะไม่มีการเลือกตั้ง แต่...เราถูกลุงแต่งตั้งให้คุมแถวช่วยเคารพธงชาติ...เป็นหัวหน้านำสวดมนต์...ร้องเพลงชาติ...หัวกิจกรรมในวันสุดสัปดาห์...ใครไม่ฟังคำสั่ง...เราจัดการ...เล่นยาง...เล่นหมากเก็บ...เตะฟุตบอล...ต้องฟังกติกาจากเรา...ใครอยากชนะ...ต้องเข้าทางเราอยูทีมเดียวกัน...ชนะตลอดการ...เราแพ้...เราเปลี่ยนกติกา...วันหลังไม่ให้เล่นด้วย...หึ..อำนาจมี...บารมีเกิด...เพราะความเป็นลูกครู...หลานครู...โก้จะตาย...