วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2551

วิถีเปลี่ยน...ชีวิตเปลี่ยน...สถานะเปลี่ยน....

0000ด้วยความรักความผูกพันธ์กันมาตั้งแต่ชาติปางก่อนหรือเกิดมาแล้วค่อยได้ร่วมชตากรรมกันครอบครัวเราทั้งสองเปรียบเหมือนครอบครัวเดียวกันลูกทั้ง 5 คน ต่างเรียกเราว่าพ่อไก่ พ่อแก้ว แม่ลุ่ม แม่ตุ๋น ครูแก้วเป็นคนดีคนหนึ่งที่ได้ดีแล้วไม่ลืมเพื่อนฝูงญาติพี่น้องและ ครอบครัว ครูแก้วไปเป็น ส.ส.อันทรงเกียรติของสภาไทยตามครูรุ่นพี่ไม่ว่าครูไพจิต ครูอรรถสิทธิ์(คันคาย)....เรามีโอกาสได้ไปเหยียบสภาหินอ่อนก่อนใครเพื่อนในบรรดาผู้สมัครส.ส.ของชาวครูเรา เพราะ...เราถูกยืมตัวไปช่วยราชการที่สำงานงานเลขาธิการรองนายกรัฐมนตรี(ฝ่ายความมั่นคง)พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ...แต่ไปช่วยงานส่วนตัวให้กับนายศุภชัย โพธิ์สุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครพนม เขตเลือกตั้งที่ 5 จังหวัดนครพนม ร่วมกับ นายพจนาท พิมสาร ปลัดอำเภอศรีสงคราม เพื่อนเราอีกคน...เราเข้ากรุงเทพ...ปลัดนาท...อยู่ที่สำนักงานบ้านส.ส.ที่ศรีสงครามทำงานธุระการ เราไปเป็นคนขับรถ...เป็นคู่คิด...คู่กัด...ปรึกษาหารือ...วิ่งงานกระทรวง ทบวง กรม ขึ้นลงกรุงเทพ นครพนม เมื่อมีงานในพื้นที่ งานเปลี่ยน บุคคลิคเปลี่ยน จากงานสอนมาเป็นงานสั่ง จากเตรียมการสอน เตรียมงานให้เด็ก กลายเป็นเตรียมงานให้ผู้ใหญ่ ทั้งภารกิจที่ต้อิงทำประจำของหน้าที่ ส.ส.งานอภิปราย กลั่นกรองเอกสาร คำพูดในที่ต่างให้ส.ส.เตรียมตารางงานแทนตารางสอน...ทำงานไม่มีปิดเทอม...ไม่มีเสาร์อาทิตย์ ไม่มีเวลา เอาเวลานอนเป็นเกณฑ์หลับแล้วถือว่าหมดหน้าที่ในวันนั้น...สิ่งที่ได้จากงานนั้นคือ...เกียรติภูมิ...เกียรติยศ

วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2551

มุ่งมั่น...ตั้งใจ...คือชัยชนะ...

ooooเราปฏิเสธเพื่อนด้วยความเจ็บใจตัวเอง...เหตุผลอะไรที่เข้าข้างตัวเองได้เรานำมาใช้ในการเจรจาทั้ง ๒ ครั้งว่า...ในสภาวะการณ์ปัจจุบันเป็นไปไม่ได้ที่จะได้เป็นผู้แทนทั้งสองคน...ประการต่อมาเงินไม่มีเอาไหนเติมน้ำมัน...รถที่ใช้ในการหาเสียงมีหกล้อบรรทุกอ้อยของครูแก้วอยู่หนึ่งคัน...เพื่อนฝูงรอบข้างเขาส่ายหน้าเหมือนพัดลม...เพื่อนๆไม่ได้ห้ามแต่บอกว่าอย่าทะลึ่ง...ไฝ่สูงเกินเหตุบางคนว่า...ยังไม่ถึงเวลาผู้หวังดีปลอบใจ...สุดท้ายครูแก้วลงสมัครในนามพรรคพลังธรรมคู่กับ ธงทิพย์ แห่สถิตย์ (ปัจจุบันเป็นส.อบจ.เขตอ.ศรีสงคราม)ญาติธรรมคนขับแท็กซี่จากเมืองร้อยเอ็ด เขยเรณู...เรารอดตายจากความหวังดีของเพื่อน...สุดท้ายผู้สมัครเบอร์9 เบอร์10 จากพลังธรรมไม่ได้เป็นผู้แทน...มีทั้งคำปลอบใจ...มีทั้งคำสมเพศ...จากสาธารณชนและคนใกล้เคียง แต่ครูแก้วเพื่อนเรา...ไม่ยอมถอย...จะด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจหรือจากคะแนนที่พี่น้องประชาชนที่มอบหมายให้...สูงพอสมควร...เพราะครูแก้วใช้วิธีสาเสียงด้วยการหาเสียงจริงๆคือเคาะประตูบ้านทุกบ้านพูดไฮค์ปาร์ค ปราศรัยหาเสียงทุกหมู่บ้านมีคนฟังหรือไม่ไม่สนใจ...ต่างกับตนอื่นที่เขาหาคะแนน...ผู้แทนเก่า ผู้สมัครเก่า...เขาใช้ระบบ 3 จ.คือ จัดตั้ง..จดชื่อ...แล้วก็ แจก...แต่ทีมเราพูดอย่างเดียว...จนครูแก้วเสียงหมดในอาทิตย์แรก...ตะโกนใส่ไมค์ด้วยความสะใจ จะมีคนฟังหรือไม่...ไม่รู้...ขอพูดก่อน...ผลการเลือกตั้งทำให้ครูแก้ว เบอร์9 อยู่ในใจประชาชน ...และได้เป็นผู้แทนสมใจในกาลต่อมา...เราก็คอยแต่ให้กำลังใจ...โอกาสยังไม่มา...สู้ต่อไป...โดยครูแก้วไม่ยอมกลับเข้ารับราชการครูเหมือนเพื่อนครูคนอื่น...ทำกิจกรรมทางการเมืองต่อ...ลงเลือกตั้งซ่อมในครั้งต่อมาแข่งกับนพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ แทนนายทนง ศิริปรีชาพงศ์(ป.เป็ด)ที่โดนข้อหาค้ายาเสพติดข้ามชาติและไปติดคุกที่อเมริกา...ลงสมัครสองคน...เขาเลือกเอาคนเดียวเกือบได้...เพราะได้ที่สอง...สมัครในนามพรรคฝ่ายค้าน แพ้ครั้งที่สองสิ่งที่ได้คือความแข็งแกร่ง...และประสบการณ์...ครั้งที่สามสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์...แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เบอร์...เพราะคนนครพนมส่วนใหญ่ไม่เอาพรรคนี้...แถมถูกชาวบ้านหลอกอีกต่างหาก...สุดท้ายเพื่อนเราได้แค่ สจ.เขตศรีสงคราม ในการลงรับเลือกตั้งในสนามครั้งที่สี่...สมใจอยากถึงแม้จะเป็นสนามเล็กก็ตาม...ครูแก้วได้ประโยชน์จากการเป็น สจ.อาศัยสภาจังหวัดนครพนม แสดงความโดดเด่นที่มีโชว์ฝีมือของดาวสภาให้คนนครพนมเห็น...และได้เป็นสมาชิกของพรรคพ่อใหญ่จิ๋วพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ ขวัญใจของคนอีสาน ให้ลงสมัครในนามของพรรคตามรัฐธรรมนูญปี 2540 แบบเขตเดียวเบอร์เดียวและทำให้เพื่อนเราได้เป็นผู้แทนราษฎรจังหวัดนครพนม เขตเลือกตั้งที่ 5 อำเภอศรีสงคราม นาหว้า นาทม และเขตตำบลบ้านค้อ(อำเภอโพนสวรรค์)...ตั้งแต่ปี 2544 เป็นมา