0000ใครเคยคิดบ้างไหมว่า...ชีวิตของครูบ้านนอกที่ไม่ได้มีจุดมุ่งหวังอะไรมากมายในชีวิต...จะได้มานั่งดูแลควบคุม...กำกับสั่งการ...ร้องขอ...และขอร้อง...เพื่อนพ้องน้องพี่ในองค์กรขนาดใหญ่ของจังหวัดนครพนม...ที่มีชื่อเรียกว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม(อบจ.)...และมีการเลือกตั้งตรงครั้งแรกของจังหวัดนครพนม...ที่ผ่านมานั้นผู้บริหารองค์การแห่งนี้มาจากการเลือกตั้งทางอ้อมคือ...การเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด(สจ.)แล้ว สจ.มาเลือกกันเองหนึ่งคนเพื่อดำรงตำแหน่งเป็นประธานสภาจังหวัดทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร...แล้วเลือก สจ.อีกสองคนเป็นรองประธาน...ก่อนพัฒนามาเป็นตำแหน่งนายก อบจ.แล้วเรียกชื่อสจ.ว่า ส.อบจ.(สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด) แล้วเปลี่ยนวิธีการได้มาของฝ่ายบริหารใหม่ แยกจากสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่มีอยู่เดิม 30 คน ทั้งจังหวัดนครพนม แบ่งเป็น 30 คน 30 เขต ครอบคลุมทั้งจังหวัด ตามจำนวนประชากรของแต่ละอำเภอ...
0000 การเลือกตั้งครั้งแรกของชีวิตที่เรียกว่าสนามการเมืองจริงๆ...ได้เริ่มขึ้นร่วมกับงานที่มี นางมนพร เจริญศรี เป็นผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม นายสมชอบ นิติพจน์ เป็นรองนายกองค์การบริการส่วนจังหวัดนครพนม คนที่ 1 และนายอารมณ์ เวียงด้าน ลูกแม่หวลบ้านศรีเวินชัย เป็นรองคนที่ 2 โดยเราตัดสินใจลาออกจาครู เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2546 หันหลังให้ชีวิตครูที่ได้สร้างสมบารมี และอาศัยเงินเดือนเลี้ยงลูกเมียมาแต่ต้น ตัดสินใจแน่วแน่แล้วเลือกเส้นทางการเมืองท้องถิ่น...เราเคยผ่านการเลือกตั้งมาบ้างแล้ว แต่...เป็นการเลือกตั้งในวงจำกัดที่เลือกกันเอง เช่น กรรมการกลุ่มโรงเรียน คณะกรรมการการประถมศึกษาอำเภอ(กปอ.)คุรุสภาอำเภอ,คุรุสภาจังหวัด ที่ชาวครูเลือกครูเพื่อไปทำหน้าที่แทน แต่การเลือกตั้งทุกครั้งเรามักเป็นผู้ชนะเสมอ...การเลือกตั้งครั้งนี้คนทั้งจังหวัดอายุ 18 ปีขึ้นไปมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง...ถึงแม้ไม่ได้เลือกเราโดยตรงเราไม่มีเบอร์...แต่ก็เบอร์เดียวกัน...เขาเลือกนายกก็เหมือนเลือกเรานายกได้เป็นเราได้เป็นถ้านายกสอบตกเราตกงาน...1พันกว่าหมู่บ้าน 93 ตำบลที่จะต้องเดินทางไปหาคะแนน และต้องไปปรากฎตัวต่อสาธารณะชนแล้วพูดเชียร์ตัวเองเพื่อให้คนลงคะแนนให้ซึ่งเรียกกันว่าหาเสียง...ถามว่าเหนื่อยไหม?ก็สนุกไปอีกแบบ ท้าทาย...มั่นใจ...เชื่อใจทีมงาน...ประสานงานกับคนหลายภาคส่วนมากขึ้น...ความเชื่อมั่น...ความมุ่งมั่น...มีเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ...
0000ถึงวันเลือกตั้งผลคะแนนออก...เหมือนยกภูเขาออกจากอกชนะแบบเฉียดฉิว ครูไก่ ครูอารมณ์ ครูบ้านนอก ของชาวบ้านจะได้เป็นนายก็คราวนี้แหละ... แต่อย่าคิดนะว่าจะได้เป็นนาย...เพราะตำแหน่งนี้เป็นของชาวบ้านเป็นของพี่น้องประชาชน...ไม่มีเขาไม่มีเรา...ถือว่าเราเป็นหนี้บุญคุณอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ในชีวิตนี้...ตำแหน่งอันทรงเกีรยติ...ตำแหน่งแห่งเกียรติยศและศักดิ์ศรี...ต้องทำให้ดีและประทับใจชาวบ้านให้ได้...เพราะชาวบ้านก็คือพ่อแม่พี่น้องเรา...และตัวเราเองก็คือชาวบ้านคือคนไทบ้าน ลูกไทบ้าน...ที่อยากได้อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ดีในช่วงชีวิตเรา...เราต้องทำได้...และจะทำให้ได้...เราขอสัญญากับตัวเอง...ทำในสิ่งใช่...ไม่ใช่อย่าทำ...
0000 การเลือกตั้งครั้งแรกของชีวิตที่เรียกว่าสนามการเมืองจริงๆ...ได้เริ่มขึ้นร่วมกับงานที่มี นางมนพร เจริญศรี เป็นผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม นายสมชอบ นิติพจน์ เป็นรองนายกองค์การบริการส่วนจังหวัดนครพนม คนที่ 1 และนายอารมณ์ เวียงด้าน ลูกแม่หวลบ้านศรีเวินชัย เป็นรองคนที่ 2 โดยเราตัดสินใจลาออกจาครู เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2546 หันหลังให้ชีวิตครูที่ได้สร้างสมบารมี และอาศัยเงินเดือนเลี้ยงลูกเมียมาแต่ต้น ตัดสินใจแน่วแน่แล้วเลือกเส้นทางการเมืองท้องถิ่น...เราเคยผ่านการเลือกตั้งมาบ้างแล้ว แต่...เป็นการเลือกตั้งในวงจำกัดที่เลือกกันเอง เช่น กรรมการกลุ่มโรงเรียน คณะกรรมการการประถมศึกษาอำเภอ(กปอ.)คุรุสภาอำเภอ,คุรุสภาจังหวัด ที่ชาวครูเลือกครูเพื่อไปทำหน้าที่แทน แต่การเลือกตั้งทุกครั้งเรามักเป็นผู้ชนะเสมอ...การเลือกตั้งครั้งนี้คนทั้งจังหวัดอายุ 18 ปีขึ้นไปมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง...ถึงแม้ไม่ได้เลือกเราโดยตรงเราไม่มีเบอร์...แต่ก็เบอร์เดียวกัน...เขาเลือกนายกก็เหมือนเลือกเรานายกได้เป็นเราได้เป็นถ้านายกสอบตกเราตกงาน...1พันกว่าหมู่บ้าน 93 ตำบลที่จะต้องเดินทางไปหาคะแนน และต้องไปปรากฎตัวต่อสาธารณะชนแล้วพูดเชียร์ตัวเองเพื่อให้คนลงคะแนนให้ซึ่งเรียกกันว่าหาเสียง...ถามว่าเหนื่อยไหม?ก็สนุกไปอีกแบบ ท้าทาย...มั่นใจ...เชื่อใจทีมงาน...ประสานงานกับคนหลายภาคส่วนมากขึ้น...ความเชื่อมั่น...ความมุ่งมั่น...มีเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ...
0000ถึงวันเลือกตั้งผลคะแนนออก...เหมือนยกภูเขาออกจากอกชนะแบบเฉียดฉิว ครูไก่ ครูอารมณ์ ครูบ้านนอก ของชาวบ้านจะได้เป็นนายก็คราวนี้แหละ... แต่อย่าคิดนะว่าจะได้เป็นนาย...เพราะตำแหน่งนี้เป็นของชาวบ้านเป็นของพี่น้องประชาชน...ไม่มีเขาไม่มีเรา...ถือว่าเราเป็นหนี้บุญคุณอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ในชีวิตนี้...ตำแหน่งอันทรงเกีรยติ...ตำแหน่งแห่งเกียรติยศและศักดิ์ศรี...ต้องทำให้ดีและประทับใจชาวบ้านให้ได้...เพราะชาวบ้านก็คือพ่อแม่พี่น้องเรา...และตัวเราเองก็คือชาวบ้านคือคนไทบ้าน ลูกไทบ้าน...ที่อยากได้อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ดีในช่วงชีวิตเรา...เราต้องทำได้...และจะทำให้ได้...เราขอสัญญากับตัวเอง...ทำในสิ่งใช่...ไม่ใช่อย่าทำ...