วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

เส้นทางเดิน....เปลี่ยนตามแถน(เทวดา)ขีดเส้นมา


000000คนที่ไม่(ค่อย)เคยขัดใจใครมีเพื่อนมาก คุยสนุกเข้าได้ทุกวงสังคม...นังลุ่มเป็นข้าราชการทำให้วิถีชีวิตเดินไปแบบไม่ได้ระวังตัว...ใครชวนทำอะไร...ไม่ได้คิดมาก...ขอแต่ให้เป็นความสบายใจของเพื่อนเป็นพอ...จนเมียน้อยใจว่าเรารักเพื่อนมากกว่าเธอ...เราเป็นตัวแทนครูในหลายเรื่องที่เพื่อนๆ...เขาไม่ค่อยใส่ใจกัน...เพราะส่วนใหญ่ต่างคนต่างมีภาระแบกหามครอบครัวใครมัน...อันไหนที่เกินกว่าหน้าที่นอกเหนือจากงานการสอนเพื่อนๆมักไม่ทำ...เรารับหมดอบรมสัมมนา...ต่อสู้ให้ได้มาในเรื่องสวัสดิการสถานะทางสังคมของครู....เรามักได้เป็นตัวแทนอยู่เป็นประจำ(ก็คนอื่นเขาไม่ว่างที่จะทำนี่)...จนได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนครูให้เป็นกรรมการกลุ่มโรงเรียน(เลือกตั้ง)วิชาการกลุ่มโรงเรียนและของอำเภอเป็นตัวแทนครูในระดับอำเภอ(เลือกตั้ง)ของกลุ่มครูผู้สอนในคณะกรรมการการประถมศึกษาอำเภอ(กปอ.)(ไก่ไปอำเภอ) เป็นตัวแทนคุรุสภาอำเภอ ข่าวสารวงนอกวงใน กินดองแต่งงาน...พ่อตาตาย...แม่ยายเสีย...ในวงเพื่อนครูทั้งอำเภอเมืองเรารู้และได้ไปร่วมงานเกือบทุกงาน การได้พบคนหมู่มาก การได้เห็นสังคมดำรงอยู่จากโรงเรียนหนึ่งสู่สังคมครอบครัวหนึ่ง...มันเป็นหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียนชั้นดี...เป็นการสร้างสมอุดมการณ์...เกิดแนวคิดและสติปัญญา ที่แหวกออกจากความเป็นครูธรรมดา...สู่ความโลดแล่นของสังคมการเมือง....
000000ปี 2533 เป็นอีกห้วงหนึ่งที่การเมืองกับการพัฒนาบ้านเมืองไปสู่ทิศทางที่ดี...ได้นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือตั้ง...พลเอกชาติชาย ชุณหวัน เป็นยุคที่กล้าประกาศและเปลี่ยนยุทธศาสตร์ประเทศไทยสู่ความเป็นสากล กำหนดนโยบายเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า จากการขัดแย้งทางความคิดของประเทศอินโดจีนที่แก่งแย่งชิงดีกันบ้านพี่เมืองน้องระแวดระวังกัน...หันกลับมาจับมือกันอย่าศึกและเป็นคู่ค้าต่อกัน...หลายประเทศทั้งยุโรป อเมริกา...มองไทยเป็นแดนสวรรค์ขนเงินกันมาลงทุน...ดินลูกรังกลายเป็นทองคำ...เพื่อนครูเราหลายคนกลายเป็นเศรษฐีที่ดิน...ขายมูลมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษออกรถใหม่มีบ้านหลังโตกันเป็นแถว...แต่หลายคนที่มองการไกล...กู้เงินนอกระบบในระบบมาลงทุนกว้านซื้อที่ดินกันหวังรวยกันใหญ่...ดินบางแปลงเดือนหนึ่งเปลี่ยนมือสามสี่เจ้าก็มี...ตามกระแสที่มีคนมาปั่นราคาที่ดิน...จากยาจกกลายเป็นเศรษฐีในพริบตา
000000แต่อนิจจา 23 กุมภาพันธ์ 2534...รัฐบาลพลเอกชาติชายกำลังสนุกกับการนำประเทศเข้าเป็นคู่ค้ากับต่างชาติ บ้านเมืองกำลังเดินไปข้างหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย...ชายเสื้อคับผู้มีนามว่าพลเอกสุนทร คงสมพงษ์ และคณะได้ปล้นกลางแดดรัฐบาลพลเรือนของประชาชนที่ประชาชนช่วยกันเลือกทั้งประเทศ แต่คณะบุคคลไม่กี่คนเอารถถัง ปืนและคนในชุดทหารไม่กี่คนแย่งเอาประชาธิปไตยไปจากพี่น้องประชาชน...แล้วตั้งรัฐบาลเผด็จการทหารขึ้นมาปกครองประเทศแทน....
นนนนนนนนฝันสลายของประชาชนผู้รักประชาธิปไตย...ที่ต้องการเห็นบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย...เหตุผลในการยึดอำนาจก็ข้อเดิม....แตกแยก...รัฐบาลโกงกิน...หมิ่นพระราชา...ขาดศรัทธาจากประชาชน...ก็ประชาชนเขาเลือกของเขามา...ดีไม่ดีถูกใจชาวบ้านหรือไม่เขารู้ดี...เก่ง ดี เลือกตั้งใหม่เข้ามาบริหาร...ถ้าทำงานไม่เข้าตา...อย่าหวังว่าจะได้เข้ามาง่ายๆ...เศรษฐกิจกำลังเดินไปข้างหน้า...ดินกำลังเป็นราคา ชาวนาได้ขายข้าว หนุ่มสาวมีงานทำ...แต่...เป็นเพียงนามธรรมที่สัมผัสไม่ได้...รัฐบาลกำลังผลักดันนโยบายที่แถลงไว้ต่อสภาให้ก้าวไปข้างหน้า...ดินที่เพื่อนครูซื้อไว้...เศรษฐีใหม่ที่ต้องการลงทุนทั้งธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดย่อม...สวรรค์ล่ม...ตายทั้งเป็น...ถูกเผาโดยยังไม่สิ้นลมหายใจ...ครูอารมณ์...ผู้ที่ต่อสู้ให้ได้มาซึ่งเงินค่าครองชีพสองร้อย...สวัสดิการประกอบการดำรงชีพของข้าราชการ...ที่ควรได้...หวังลึกๆจะได้ปรับอัตราเงินเดือนใหม่...ความเป็นอยู่ของข้าราชการไทยควรได้ตามอัตภาพในสังคมปัจจุบันทึ่ค่าครองชีพเดินทางล่วงหน้าไปถึงไหนแล้ว...รัฐบาลเผด็จการทหาร...ถูกสาบแช่งก่นด่าจากซีกฝ่ายที่พลาดหวัง...ผิดหวัง...นักประชาธิปไตยเริ่มเคลื่อนไหวเปลี่ยนฝ่ายเปลี่ยนขั้ว...เตรียมการกระโจนลงสู่สนามเลือกตั้งอีกครั้งเมื่อทหารคืนอำนาจให้...หลังจากตบทรัพย์จากประเทศอิ่มหมีพีมันจัดกระบวนการทัพในการสืบทอดอำนาจเรียบร้อยแล้วก็คลายอำนาจนั้นให้ประชาชนอีกครั้งหนึ่ง...
นนนนนนนการเลือกตั้งปี 35/2...เพื่อนครูนักสู้ทั้งหลายคึกคัก...หลายคนพัฒนาไปไกลถึงขั้นไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค...เตรียมการลงเลือกตั้งส.ส.ส่วนตัวคุยว่า...เป็นนักต่อสู้มีความกว้างขวาง...มีลูกศิษย์ลูกหามาก...เป็นนักพูดนักไฮค์ป้าคหรืออะไรก็แล้วแต่ที่มีคนสรรเสริญเยินยอ...ฝ่ายพรรคการเมืองมองว่าถ้าได้ครูมาเป็นผู้สมัครของพรรคมีโอกาสสูงเพราะครูคือผู้ปัญญาที่ชาวบ้านความเคารพศรัทธา เลื่อมใส...แต่มันก็เป็นเพียงบางคนที่มีจิตวิญญาณของนักการเมือง...บางคนเป็นหนี้สินมากอยากปลดเปื้อง...ลาออกไปสมัครเพื่อ....เอาเงินบำเหน็จมาใช้หนี้...เอาเงินพรรค...ที่เหลือจากค่าใช้จ่าย...แต่บางคนต้องการจะเป็นผู้แทนจริงๆ...เพื่อนเราพี่เราน้องเราชาวครู...ต่างมีเหตุผลทุกข้อที่อ้างมา...และลงสมัครผู้แทนหลายคนเช่นเดียวกันในการเลือกตั้งปี35/2
00000ครูแก้วศุภชัย โพธิ์สุ คนตำบลสามผงเป็นเพื่อนกับเรามาแต่เด็กเป็นครูบ้านแคด้วยกัน...ลูกๆทุกคนโตมาด้วยกันกับลูกเราอันเปรียบเหมือนครอบครัวเดียวกัน...เป็นนักต่อสู้กับเผด็จการหนีเข้าป่าช่วงเป็นนักศึกษา...เราหนีเข้ากรุงเทพ...ครูไก่ย้ายมาอำเภอเมือง...ครูแก้วไปเป็นครูใหญ่ที่ท่าหนามแก้วอำเภอท่าอุเทน...และทำกิจกรรมทางการเมืองประสานกันมาไม่ได้ขาด...แต่ครูแก้วเอาประสบการณ์จากป่าที่การต่อสู้อันมีระบบชัดเจน...มีความอดทนสูงทางการเมืองสูง...มีเพื่อนนักศึกษาที่ออกจากป่ามาร่วมอุดมการณ์...และทำการเมืองภาคประชาชนอย่างต่อเนื่อง...ทั้งทางลึกทางลับและเปิดเผยอยู่ตลอดเวลา...
00000พรรคพลังธรรม พรรคใหม่...มีมหาห้าขันพลตรีจำลอง ศรีเมือง เป็นหัวหน้าพรรค และเป็นพรรคที่เข้าชาวรากหญ้าได้ดีพรรคคนจน ทำเพื่อคนจนนโยบายประหยัดกินผักกินหญ้า...ถึงแม้จะขัดกับอุดมการณ์นักศึกษาที่ออกไปต่อสู้ในป่ามา...ผู้นำนักศึกษาที่ต่อต้านการรัฐประหาร...เผด็จการทุกรูปแบบและยืนอยู่คนละฟากฝั่งของทหาร...ครูแก้ว ศุภชัย โพธิ์สุ...มาชวนเราถึงบ้านออดอ้อน ชักชวน หว่านล้อม...เหมือนกับว่าสมัครแล้วต้องได้เป็นผู้แทนแน่นอน...
จจจจจจจฮึ.ฮึ..ฮึ...ครูไก่...อารมณ์...ตำแหน่งครูผู้สอนอาจารย์ 2 ระดับ 7...โรงเรียนบ้านหนองบัวนาทราย(ชื่อเดิม)หนี้สหกรณ์...กู้ตั้งแต่แต่งเมียจนมีลูกสองยังใช้ไม่หมด...มีมอเตอร์ไซด์ฮ้างอยู่ 1 คันคู่กาย(วันไหนฝนตกหนักไม่ต้องไปโรงเรียน)ทั้งครอบครัวได้อาศัยเพื่อการดำรงชีพ...เติมน้ำมันไม่เกินวันละลิตรมีเงินติดตัวไปทำงานเกิน 200 บาทวันนั้นโก้ที่สุดในชีวิต...หนี้นอกระบบชักหน้าไม่ถึงหลัง...ถนนเดินได้เป็นบางสาย...หลบเจ้าหนี้เห็นเจ้าของเงินเหมือนเห็นสิ่งน่าสะพึงกลัว...บังอาจมากถ้านายตัดสินใจสมัครผู้แทน...